แตงกวา

ชื่อสมุนไพร : แตงกวา
ชื่ออื่นๆ
: แตงขี้ไก่, แตงขี้ควาย, แตงช้าง, แตงปี, แตงยาว, แตงเห็น, แตงอ้ม, ตาเสาะ
ชื่อสามัญ : Cucumber
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cucumis sativus Linn.
ชื่อวงศ์ Cucurbitaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

  • ต้นแตงกวา ลำต้นเป็นเถามีขนขึ้นมีขนขึ้นปกคลุมทั่วไป มีข้อยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร มีหนวดเกาะบริเวณข้อโดยส่วนปลายของหนวดไม่มีการแตกแขนง แตงกวามีรากแก้ว แตกแขนงเป็นจำนวนมาก รากสามารถแผ่ทางด้านกว้างและหยั่งลึกได้มากถึง 1 เมตร
  • ใบแตงกวา ใบมีก้านใบยาว 5 – 15 เซนติเมตร ใบหยาบมีขนใบ มีมุมใบ 3 ถึง 5 มุม ปลายใบแหลม ใบใหญ่มี เส้นใบ 5 – 7 เส้น
  • ดอกแตงกวา เป็นดอกเดี่ยว มี 2 เพศ ดอกเพศเมีย เป็นดอกเดี่ยว กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกมีสีเหลือง ดอกตัวเมียมีลูกแตงกวาเล็กๆ ติดมาด้วย ดอกตัวผู้ เป็นดอกเดี่ยว ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบ ก้านช่อดอกจะยาว ดอกตัวผู้มีเกสรยื่นออกเล็กน้อย และไม่มีลูกเล็กๆ ติดที่โคนดอก
  • ผลแตงกวา มีลักษณะทรงกลม ทรงกระบอก เรียวยาว มีใส้ภายในผล มีเมล็ดเรียงกันอยู่ เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ มีรสชาติกรอบอร่อย แตงกวาพันธุ์พื้นเมืองของไทย มีขนาดผลเล็กกว่า พันธุ์ต่างประเทศ ผลมีสีเขียวเข้ม ใช้รับประทานเมื่อยังอ่อน

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ผล, เมล็ด

สรรพคุณ แตงกวา :

  • ผลและเมล็ดอ่อน กินเป็นยาระบายอ่อนๆบำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ขับปสสาวะ
  • ผล ใช้ตำเป็นยาพอกภายนอกแก้อักเสบ รักษาแผลไฟลวก น้ำจากผลใช้รักษาโรคผิวหนัง แก้ผดผื่นคัน แก้ขัดเบา ทำให้ผิวชุ่มชื้น แก้สิว
  • เนื้อในเมล็ดแก่ กินเป็นยาขับพยาธิ ตำรายาไทยระบุให้ใช้แตงกวาที่คว้านใส้ออกใส่ผงสารส้มให้เต็ม เผาไฟพอสุก บีบคั้นเอาน้ำดื่มแก้ขัดเบา
Scroll to top