ชื่อสมุนไพร : ก้นปิด
ชื่ออื่นๆ : ใบก้นปิด (ทั่วไป)
ปังปอน (เชียงใหม่)
ย่านปด (นครศรีธรรมราช)
กรุงคะเมา, บัวเครือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stephania glandulifera Miers.
ชื่อวงศ์ : MENISPERMACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นก้นปิด เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ลำต้น ยาว 6-7 เมตร ไม่มีมือจับ เลื้อยไปบนต้นไม้อื่นหรือบนหิน ลำต้นกลมสีน้ำตาล มีหัวใต้ดิน ลำต้นแก่มักมีรอยแตกเป็นขีดตามยาว
- ใบก้นปิด ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม เรียงตรงข้าม ใบเป็นรูปใบโพธิ์ ปลายใบแหลมฐานใบกลมและบังก้านใบ ขนาดกว้าง 8-15 เซนติเมตร ยาว 8-17 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ใบนิ่มแต่ไม่ฉ่ำน้ำ เป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบยาว 5-17 เซนติเมตร ยอดอ่อนเป็นสีเขียวอ่อน
- ดอกก้นปิด แยกเพศ มีขนาดเล็ก ก้านสั้น ออกเป็นช่อ สีเหลืองส้ม ออกเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบยาว 5-17 เซนติเมตร ดอกสีเหลืองส้ม ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือลำต้น ช่อดอกทรงก้านร่ม ยาว 5-12 เซนติเมตร ดอกย่อยขนาดเล็ก ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกันคนละต้น ดอกมีขนาดเล็ก ก้านดอกสั้น ดอกรวมอยู่บนช่อดอกรูปก้านซี่ร่มแยกเพศ ดอกเพศผู้มีกลีบรองดอก 6 กลีบ กลีบดอก 3 กลีบ ดอกเพศเมียมีกลีบรองดอกและกลีบดอกอย่างละ 2 กลีบ
- ผลก้นปิด รูปไข่กลับ ยาว 6 มิลลิเมตร มีเนื้อเหมือนสตรอเบอร์รี่ มีเมล็ดแข็งสีดำ
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ทั้งต้น
สรรพคุณ ก้นปิด :
- ราก รสฝาดขม ใช้แก้ไข้ แก้ท้องเสีย ธาตุไม่ปกติ แก้โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
- ทั้งต้น แก้คัน
การเกิดพิษ
- นำหัวมาโขลกบีบเอาเฉพาะน้ำ ใช้เบื่อปลาได้ แต่ถ้าคนนำมาดื่ม จะทำให้ตายได้
สารที่พบ
- fangchinoline, dl-tetrandrine และ d-isochondrodendrine, picrotoxin
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
- วีระชัย ณ นคร. 2540. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4. องค์การสวนพฤกษศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี. โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮาส์, กรุงเทพฯ.
ภาพประกอบ :
- Sajan Subedi. (2012). Stephania glandulifera. [Image]. Retrieved from www.flickr.com
- Sophie Leguil. (2013). Stephania glandulifera. [Image]. Retrieved from www.flickr.com